Dark Souls III ยังคงนำเสนอบรรยากาศที่เข้มข้นของโลกที่เต็มไปด้วยอันตราย
Dark Souls 3 เป็นภาคต่อของซีรีส์เกมที่ขึ้นชื่อในเรื่องความยากและความซับซ้อนของเนื้อเรื่อง ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนๆ เกม RPG ทั่วโลก โดยเฉพาะสาวกของซีรีส์ Souls ที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ สิ่งที่ทำให้ภาคนี้น่าสนใจเป็นพิเศษคือการกลับมาของ ฮิเดทากะ มิยาซากิ ผู้สร้างตัวจริงของเกม ไม่ว่าจะเป็น Demon’s Souls, Dark Souls และ Bloodborne ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการออกแบบเกมที่ท้าทายและมีความลึกล้ำ ภาคนี้จึงถูกคาดหวังว่าจะมอบประสบการณ์ที่ยากนรกแตกเหมือนกับภาคแรกๆ สำหรับภาค 2 นั้น มิยาซากิไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา เพราะเขาต้องทำงานกับ Bloodborne ทำให้แฟนๆ หลายคนรู้สึกว่าเกมนั้นขาดเอกลักษณ์และความท้าทายที่คุ้นเคย ดังนั้นเมื่อเขากลับมาดูแลงานทั้งหมดใน Dark Souls 3 ความคาดหวังจึงสูงขึ้นอย่างมาก ในด้านการเล่น Dark Souls 3 ยังคงมีระบบการต่อสู้ที่ซับซ้อนและต้องใช้กลยุทธ์ในการเอาชนะศัตรู ที่ต้องอาศัยทั้งความแม่นยำและความอดทน ในขณะที่โลกในเกมยังคงเต็มไปด้วยความลึกลับและการสำรวจ โดยผู้เล่นจะต้องค้นหาความหมายของเนื้อเรื่องที่ถูกถ่ายทอดผ่านบรรยากาศและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยรวมแล้ว Dark Souls 3 เป็นการกลับมาที่น่าตื่นเต้นและคาดหวังได้ว่า จะเป็นเกมที่ท้าทายและนำเสนอประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้เล่นเหมือนเช่นเคยในซีรีส์ Souls!
เมื่อเวลาผ่านไปหลายพันปี Lord Soul เริ่มเสื่อมสภาพ และโลกใกล้จะกลับสู่ยุคมืดอีกครั้ง Gwyn จึงตัดสินใจสละตัวเองเพื่อให้ The First Flame ยังคงลุกไหม้ได้ โดยในสองภาคแรก ผู้เล่นจะรับบทเป็น Undead ผู้ถูกเลือก เพื่อสะสมพลังและกลายเป็น Lord of Cinder ทำหน้าที่สังเวยชีวิตเพื่อให้ไฟยังคงลุกไหม้ ในภาคที่สาม ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Unkindled ผู้มีหน้าที่ตามล่า Lord of Cinder ทั้งห้าผู้หายตัวไป การเดินทางเพื่อค้นหาความหมายของไฟและความมืดนี้จะนำไปสู่บทสรุปที่สำคัญของซีรีส์ Dark Souls ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับและการเลือกที่ยากลำบาก ติดตามเรื่องราวนี้ได้ใน Dark Souls 3!
Gameplay
ระบบการเล่นใน Dark Souls 3 ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแนว RPG ที่ท้าทายและเต็มไปด้วยความโหดร้าย โดยผู้เล่นจะต้องใช้สมาธิสูงในทุกย่างก้าว เนื่องจากศัตรูแต่ละตัวที่รออยู่สามารถทำให้เราตายได้ในพริบตา หากเรากดจังหวะพลาดไปแม้เพียงเสี้ยววินาที เมื่อเราตาย SOULS (หรือ EXP) ทั้งหมดที่เก็บมาได้จะตกอยู่ตรงจุดที่เราตาย ผู้เล่นต้องกลับไปที่ BONFIRE เพื่อฟื้นคืนชีพ จากนั้นจึงออกเดินทางใหม่เพื่อเก็บ SOULS ที่ตกอยู่และฝ่าด่านต่อไป จนถึงห้องบอสสุดโหดที่รออยู่ เกมนี้เป็นการผสมผสานระหว่างการสำรวจ, การต่อสู้ที่เข้มข้น และความท้าทายในการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ Dark Souls 3 กลายเป็นเกมที่ได้รับความนิยมในหมู่แฟนๆ และผู้เล่นที่ชื่นชอบความท้าทายอย่างแท้จริง!
ตัวละคร/สายอาชีพ
ใน Dark Souls III ผู้เล่นมีความอิสระในการสร้างตัวละคร รวมถึงการปรับแต่งรูปลักษณ์และการเลือกสวมใส่อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรืออาวุธที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีค่า Status ที่กำหนดความสามารถและความแตกต่างในการต่อสู้ เกมนี้มีสายอาชีพให้เลือกตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งแต่ละอาชีพจะเซ็ตค่า Status ที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่น โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- Knight – โดดเด่นด้วยพลังป้องกัน (Vit) และชุดเกราะหนัก ช่วยให้รับความเสียหายได้ดี (Lv.9)
- Mercenary – เน้นความว่องไว (Dex) เหมาะกับการใช้อาวุธ 2 มือในการโจมตีต่อเนื่อง (Lv.8)
- Warrior – มี (Str) พลังโจมตีสูง และใช้อาวุธหนัก เช่น ขวาน ทำให้มีความรุนแรงในการโจมตี (Lv.7)
- Herald – แม้จะมีความคล่องตัวต่ำ แต่สามารถใช้หอกคู่กับโล่ได้ดีเพื่อการป้องกัน (Lv.9)
- Thief – มีค่า คว สูง เน้นความคล่องตัวในระยะประชิด ทำให้สามารถหลบหลีกได้ง่าย (Lv.5)
- Assassin – เน้นความคล่องตัวสูง ใช้ดาบและสกิลในการต่อสู้ ทำให้มีความยืดหยุ่น (Lv.10)
- Sorcerer – มีค่า Int สูง ใช้มีดและเวทย์มนตร์ที่สามารถโจมตีในระยะไกลและรุนแรง (Lv.6)
- Pyromancer – เน้นการต่อสู้ใกล้ชิดด้วยขวานเล็กและเวทย์ไฟ ทำให้มีความหลากหลายในการโจมตี (Lv.8)
- Cleric – มีค่า Faith/Luck สูง ใช้อาวุธกระบองในการต่อสู้และเวทย์ที่ช่วยในการผลักศัตรู (Lv.7)
- Deprived – เริ่มต้นด้วยค่าพลังที่เท่ากันทั้งหมด (Lv.1) ทำให้มีความยืดหยุ่นในการพัฒนา
Skill Weapon
ใน Dark Souls III มีการเพิ่มระบบท่าโจมตีพิเศษสำหรับอาวุธแต่ละชนิด เพื่อให้รูปแบบการโจมตีมีความหนักหน่วงและหลากหลายมากยิ่งขึ้น วิธีการใช้ท่านี้คือ ให้ติดตั้งอาวุธใน Right Hand จากนั้นกดปุ่ม Triangle เพื่อเก็บโล่ในมือซ้าย แล้วกด L2 เพื่อเรียกใช้ท่าพิเศษของอาวุธมือขวา
แต่ละอาวุธจะมีท่าโจมตีพิเศษที่แตกต่างกันไป เช่น:
- Dagger – ท่าแดชหลบเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี
- Straight Sword – ท่าจรดดาบเตรียมฟันศัตรู
- Katana – ท่าเก็บดาบอิไอ ช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตี
- Axe/Club – ท่าเร่งพลังโจมตีเพื่อเพิ่มความรุนแรง
- Spear – ท่าพุ่งแทงที่ทำให้โจมตีจากระยะไกลได้
- Caestus – บัพที่ช่วยลดความเสียหายที่ได้รับ
- Longbow – ท่าชาร์จยิงทะลุโล่ของศัตรู
- Crossbow – ท่าพุ่งกระแทกระยะประชิดเพื่อทำให้ศัตรูไม่สามารถตอบโต้ได้
BONFIRE / ระบบกองไฟคืนชืพ
ใน Dark Souls III ระบบการคืนชีพได้รับการเปลี่ยนแปลงจาก Humanity (Undead) เป็น Ember (Unkindle) โดยมีแนวทางที่คล้ายกัน เมื่อเราตาย SOUL จะดรอปอยู่ที่จุดที่เราตาย และเราจะกลับมาเกิดใหม่ที่ Bonfire เมื่อผู้เล่นสามารถสังหารบอสได้ จะเป็นการฟื้นฟูพลังไฟในร่างกาย ทำให้แถบพลังชีวิตสูงขึ้น และเราจะเห็นร่างกายของเราลุกไหม้ในสภาพนี้ ในสถานะที่ติดไฟนี้ ผู้เล่นยังสามารถดึงผู้เล่นคนอื่นเข้ามาในโลกของเราได้ ซึ่งทำให้การร่วมมือกันในการต่อสู้กับศัตรูมีความสนุกสนานและท้าทายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเราตายอีกครั้งและฟื้นคืนชีพ ไฟบนร่างจะดับลง ทำให้แถบพลังชีวิตลดน้อยลง ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องระมัดระวังและวางแผนการต่อสู้ให้ดี เพื่อรักษาสถานะ Ember ไว้ให้ได้นานที่สุด การจัดการกับความท้าทายนี้จะเพิ่มความลึกซึ้งให้กับประสบการณ์การเล่นในโลกที่โหดร้ายของ Dark Souls III!
เทคนิคการเล่น
ซีรีส์ Dark Souls ขึ้นชื่อเรื่องความยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการจัดการ STAMINA ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเคลื่อนไหวและโจมตี หากผู้เล่นกดโจมตีหรือกระโดดหลบอย่างรวดเร็วจนหมดแรง ก็จะเสี่ยงต่อการโดนศัตรูโจมตีได้ง่าย และดาเมจที่ได้รับก็มีน้ำหนักมาก เทคนิคการเล่นที่สำคัญคือการอ่านรูปแบบการเคลื่อนไหวของศัตรูให้ดี รอจังหวะจนศัตรูออกท่าโจมตีครบชุดแล้วค่อยเข้าไปตี 2-3 ครั้ง จากนั้นรีบกระโดดออกมาเพื่อรักษาระยะห่าง ห้ามใจร้อนหรือตีรัวๆ เพราะจะทำให้เราเสี่ยงต่อการถูกโจมตีกลับ เน้นการหลบหลีกและรักษาระยะห่าง เพื่อให้สามารถหาโอกาสเข้าโจมตีใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Game Rank S Score 99/100 เกมส์เพลยอดเยี่ยม / ภาพเสียงอลังการ / เนื้อเรื่องเหนือจินตนาการ
Dark Souls III คือเกมที่ต้องใช้ฝีมือในการเล่นอย่างแท้จริง ผู้เล่นต้องพึ่งพาทักษะการบังคับและการตัดสินใจที่เฉียบคม โดยมุ่งมั่นและมีสมาธิตลอดเวลา เกมนี้ไม่ใช่แค่การกดปุ่มรัวๆ เพื่อฆ่าศัตรูจำนวนมากอย่างง่ายดาย ทุกศัตรูใน Dark Souls ล้วนเป็นภัยที่อันตราย การอ่านระยะโจมตีและจดจำรูปแบบการเคลื่อนไหวของศัตรูจึงเป็นสิ่งสำคัญ การหลบหลีกสำคัญกว่าการโจมตี เพราะการโจมตีโดยไม่ระมัดระวังอาจนำไปสู่ความตายได้ง่าย บอสแต่ละตัวมีพลังชีวิตสูงมาก การเอาชนะบอสต้องอาศัยความอดทนและกลยุทธ์ เช่น การโจมตีอย่างระมัดระวัง คอยหลบหลีก และรอจังหวะที่เหมาะสม เพราะการพลาดเพียงเสี้ยววินาทีอาจหมายถึงความตาย ดังนั้นความสามารถของผู้เล่นใน Dark Souls III จะถูกทดสอบในทุกย่างก้าว!