สูตรเกม Dishonored 2 สุดยอดแนวทางสำหรับนักลอบเร้นและนักฆ่า
Dishonored 2 เป็นเกมแนวลอบเร้นที่เต็มไปด้วยตัวเลือกและเส้นทางที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเลือกเล่นในแบบนักฆ่าเงียบ ๆ หรือเน้นแอ็กชันเต็มรูปแบบ เทคนิคและ สูตรเกม เหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จและทำให้การเล่นสนุกยิ่งขึ้น
1. วางแผนก่อนลุย
เกมนี้มอบอิสระในการเลือกเส้นทางและวิธีการทำภารกิจ ดังนั้นควรวางแผนล่วงหน้า
สำรวจแผนที่ : ใช้เวลาเดินสำรวจเพื่อหาทางเข้าออก เช่น หน้าต่าง, ท่อระบายอากาศ หรือเส้นทางลับ
ใช้ Spyglass : อุปกรณ์นี้ช่วยตรวจสอบศัตรูและวางแผนโจมตีจากระยะไกล
2. เลือกตัวละครที่เหมาะกับสไตล์การเล่น
Corvo Attano : เหมาะสำหรับการลอบเร้นและการใช้พลังพิเศษที่ทรงพลัง เช่น Blink และ Time Bend
Emily Kaldwin : เหมาะสำหรับการเล่นแบบสร้างสรรค์ โดยใช้พลังเช่น Domino เพื่อเชื่อมศัตรูเข้าด้วยกัน หรือ Shadow Walk สำหรับการลอบเร้นขั้นสูง
3. เทคนิคการใช้พลังพิเศษให้เกิดประโยชน์
Corvo
Blink : ใช้สำหรับย้ายตำแหน่งอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับ
Possession : เข้าครอบงำสัตว์หรือศัตรูเพื่อผ่านพื้นที่ที่มีการป้องกันสูง
Time Bend : หยุดหรือชะลอเวลาเพื่อวางแผนโจมตีหรือลอบเร้น
Emily
Domino : เชื่อมโยงศัตรูหลายคนเข้าด้วยกัน เมื่อทำลายหนึ่งคน อีกคนจะได้รับผลเหมือนกัน
Far Reach : ดึงตัวเองไปยังจุดสูงเพื่อหลีกเลี่ยงศัตรูหรือเข้าถึงพื้นที่ลับ
Shadow Walk : ใช้สำหรับลอบเร้นในสถานการณ์ที่มีศัตรูหนาแน่น
4. การลอบเร้นขั้นสูง
ซ่อนตัวในเงามืด : ใช้ประโยชน์จากแสงและเงาในฉาก
หลีกเลี่ยงการฆ่า : การเลือกทำให้ศัตรูหมดสติแทนการฆ่าจะช่วยลดระดับความโกลาหลในเกม และส่งผลต่อฉากจบที่ดี
หยุดเวลาศัตรู : หากคุณถูกพบ รีบใช้พลังหยุดเวลาหรือหายตัวเพื่อหนี
5. อัปเกรดและจัดการทรัพยากร
อัปเกรดพลัง : เน้นพลังที่เข้ากับสไตล์การเล่น เช่น อัปเกรด Blink ให้มีระยะไกลขึ้น หรือ Domino ให้เชื่อมโยงศัตรูได้หลายคน
จัดการยาและกระสุน : สำรวจทุกพื้นที่เพื่อเก็บยาเพิ่มพลังชีวิตและกระสุน คุณไม่มีวันรู้ว่าต้องเจออะไร
6. ความลับและพื้นที่ลับ
หา Bone Charms และ Runes : ใช้ Bone Charms และ Runes เพื่อเพิ่มพลังหรือปลดล็อกทักษะใหม่
ฟังบทสนทนา : ศัตรูมักให้เบาะแสเกี่ยวกับรหัสผ่านหรือทางลับ
สำรวจทุกมุม : มีพื้นที่ลับมากมายที่ซ่อนอาวุธ ไอเท็ม และข้อมูลสำคัญ
7. รับมือศัตรูอย่างชาญฉลาด
สังเกตการเดินตรวจของศัตรู : สังเกตแพตเทิร์นของพวกมันและโจมตีในช่วงที่พวกมันแยกจากกลุ่ม
ใช้สิ่งแวดล้อม : เช่น ถังระเบิดหรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อสร้างความเสียหายโดยไม่ต้องใช้กระสุน
จัดการ Watchtower และ Arc Pylon : ใช้ Rewire Tool เพื่อเปลี่ยนจากศัตรูให้กลายเป็นฝ่ายคุณ
8. ทางเลือกในการทำภารกิจ
เกมมีหลายวิธีในการทำภารกิจ คุณสามารถเลือกได้ระหว่างการแก้ปัญหาแบบรุนแรงหรือการหาทางเลือกที่สร้างสรรค์
วิธีลอบเร้น : ใช้พลังและเส้นทางลับเพื่อผ่านศัตรู
วิธีต่อสู้ตรงๆ : ใช้ทักษะการต่อสู้และอาวุธเพื่อจัดการศัตรู
9. ใช้ Quick Save และ Quick Load
บันทึกบ่อยๆ : คุณสามารถลองผิดลองถูกเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุด
โหลดซ้ำ : หากการลอบเร้นผิดพลาดหรือถูกพบ
10. ทดลองสิ่งใหม่ ๆ
เกม Dishonored 2 สนับสนุนการเล่นที่หลากหลาย ลองผสมผสานพลังพิเศษและอาวุธเพื่อค้นหาสไตล์การเล่นที่เหมาะกับคุณ
โค้ดเกม Dishonored 2 : ปลดล็อกความสนุกและลูกเล่นพิเศษ
Dishonored 2 เป็นเกมแนวลอบเร้นที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์หลากหลาย ด้วยระบบการเล่นที่ยืดหยุ่นและตัวเลือกเส้นทางที่หลากหลาย แม้เกมนี้จะไม่มี “โค้ดลับ” แบบป้อนรหัสโดยตรง แต่มีวิธีใช้ลูกเล่นและฟีเจอร์บางอย่างในเกมเพื่อสร้างความได้เปรียบ รวมถึงการปรับแต่งด้วยโหมดพิเศษหรือไฟล์เกม
1. โหมด “New Game Plus”
หลังจากเล่นจบเกมครั้งแรก คุณสามารถปลดล็อกโหมด New Game Plus ซึ่งช่วยให้คุณเริ่มเกมใหม่พร้อมความสามารถพิเศษจากตัวละคร Corvo และ Emily
พลังผสม : คุณสามารถผสมผสานพลังของตัวละครทั้งสอง เช่น Blink ของ Corvo กับ Domino ของ Emily
กลยุทธ์หลากหลาย : โหมดนี้ช่วยให้คุณสำรวจวิธีการเล่นใหม่ ๆ และเนื้อเรื่องที่อาจพลาดไป
2. โหมด “Mission Select”
เมื่อคุณเล่นจบแต่ละภารกิจ จะมีตัวเลือกให้คุณย้อนกลับไปเล่นภารกิจที่ผ่านแล้วอีกครั้ง
เก็บไอเท็ม : ใช้โอกาสนี้ในการค้นหา Runes และ Bone Charms ที่อาจพลาดไป
ท้าทายตัวเอง : ลองทำภารกิจด้วยวิธีการใหม่ เช่น ลอบเร้นโดยไม่ฆ่าใคร
3. คำสั่ง Console (สำหรับ PC เท่านั้น)
สำหรับผู้เล่น PC ที่ต้องการสำรวจเกมในเชิงลึก การใช้คำสั่ง Console ผ่านการปรับแต่งไฟล์เกมสามารถช่วยปลดล็อกฟีเจอร์พิเศษได้
วิธีการเปิดใช้งาน Console
ค้นหาไฟล์ “Dishonored2Config.cfg” ในโฟลเดอร์เกม
เปิดไฟล์ด้วยโปรแกรมแก้ไขข้อความ เช่น Notepad
เพิ่มคำสั่ง “EnableConsole 1” ในไฟล์ แล้วบันทึก
ในเกม กดปุ่ม ~ (tilde) เพื่อเปิดหน้าต่าง Console
คำสั่งที่น่าสนใจ
God : เปิดโหมดอมตะ
Fly : ให้ตัวละครบินได้
GiveAllRunes : รับ Runes ทั้งหมด
GiveBoneCharms : ปลดล็อก Bone Charms ทุกชิ้น
ToggleInvisibility : ทำให้มองไม่เห็น
หมายเหตุ : การใช้ Console อาจส่งผลต่อความสมดุลของเกมหรือปิดการบันทึกความสำเร็จในบางกรณี
4. เคล็ดลับพิเศษจาก Bone Charms
Bone Charms เป็นไอเท็มพิเศษในเกมที่ให้คุณปรับแต่งตัวละครด้วยความสามารถเพิ่มเติม
Strong Arm : ช่วยให้คุณโยนศัตรูหรือสิ่งของได้ไกลขึ้น
Swift Stalker : เพิ่มความเร็วเมื่อเคลื่อนไหวแบบลอบเร้น
Whirlwind : เพิ่มพลังในการโจมตีระยะประชิด
5. การปลดล็อกฉากจบแบบต่าง ๆ
เกม Dishonored 2 มีฉากจบหลายแบบที่ขึ้นอยู่กับระดับ Chaos (ความโกลาหล) ในเกม
Low Chaos : สำหรับการเล่นแบบลอบเร้นและไม่ฆ่า
High Chaos : สำหรับผู้ที่เลือกวิธีการเล่นที่ดุดัน
ฉากจบลับ : คุณสามารถสำรวจเนื้อเรื่องที่แตกต่างได้โดยเลือกตัวเลือกสำคัญในช่วงภารกิจสำคัญ
6. การปรับแต่ง Mods (สำหรับ PC)
ชุมชนผู้เล่น PC ได้พัฒนา Mods ที่ช่วยเพิ่มฟีเจอร์พิเศษและปรับแต่งเกม เช่น
Unlimited Mana Mod : ให้พลังงานไม่มีที่สิ้นสุด
Enhanced Graphics Mod : ปรับภาพในเกมให้คมชัดยิ่งขึ้น
Custom Difficulty Mod : เพิ่มตัวเลือกความยากใหม่
7. เทคนิคการปลดล็อกความลับในเกม
ค้นหา Runes และ Bone Charms ซ่อนอยู่ : ตรวจสอบทุกซอกมุมและใช้หัวใจ (Heart) เพื่อค้นหาไอเท็มสำคัญ
อ่านเอกสารในเกม : เอกสารหรือโน้ตในเกมมักให้เบาะแสเกี่ยวกับรหัสผ่านและทางลับ
ฟังบทสนทนา : NPC บางตัวจะบอกเบาะแสที่นำไปสู่ความลับในเกม
บทสรุปเกม Dishonored 2 เป็นเกมแนวลอบเร้นผสมแอคชันที่พาผู้เล่นเข้าสู่โลกแฟนตาซีดิสโทเปียของจักรวรรดิ Dunwall และเมือง Karnaca ผู้เล่นจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องและฉากจบที่หลากหลาย บทสรุปนี้จะครอบคลุมเนื้อเรื่องสำคัญ วิธีการผ่านด่าน และเคล็ดลับสำหรับการเล่น
เนื้อเรื่องหลัก
เนื้อเรื่องเกิดขึ้น 15 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน Dishonored ตัวละครหลักมีสองตัวเลือกคือ Corvo Attano พ่อมดลอบเร้นที่เชี่ยวชาญด้านพลังเหนือธรรมชาติ และ Emily Kaldwin ราชินีแห่ง Dunwall ที่ถูกโค่นอำนาจหลังจากการรัฐประหารโดย Delilah Copperspoon
เป้าหมาย: ยึดบัลลังก์กลับคืนและกอบกู้เกียรติยศของราชวงศ์ Kaldwin
ศัตรูหลัก: Delilah และเครือข่ายพันธมิตรที่มีอำนาจ
ในระหว่างเนื้อเรื่อง ผู้เล่นต้องเลือกเส้นทางและวิธีการจัดการกับเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดศัตรูแบบลอบเร้นหรือเผชิญหน้าอย่างดุดัน
วิธีผ่านด่านสำคัญ
1. ด่าน A Long Day in Dunwall
เริ่มต้นใน Dunwall Tower หลังจาก Delilah ยึดบัลลังก์
เลือกตัวละคร Corvo หรือ Emily
สำรวจเส้นทางลับภายในปราสาทเพื่อหลบหนี
รวบรวมทรัพยากร เช่น Runes และ Bone Charms
2. ด่าน Edge of the World
เดินทางไปเมือง Karnaca และเริ่มตามรอยผู้ช่วยเหลือ
ใช้พลังพิเศษ เช่น Blink หรือ Far Reach เพื่อเข้าถึงพื้นที่สูง
สำรวจเมืองเพื่อค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับ Delilah
3. ด่าน The Clockwork Mansion
เผชิญหน้ากับ Kirin Jindosh วิศวกรผู้สร้าง Clockwork Soldiers
ค้นหาทางลัดและใช้กลไกในคฤหาสน์เพื่อเอาชนะศัตรู
เลือกว่าจะกำจัด Jindosh หรือทำให้เขาเสียสติ
4. ด่าน The Royal Conservatory
เข้าไปในพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดการ Breanna Ashworth
ใช้พลังลอบเร้นเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ
ค้นหาเอกสารสำคัญที่เปิดเผยแผนการของ Delilah
5. ด่าน A Crack in the Slab
ใช้ไอเท็ม Timepiece เพื่อย้อนเวลาและแก้ไขปริศนา
สำรวจคฤหาสน์ที่ถูกทิ้งร้างในช่วงเวลาต่าง ๆ
ตัดสินใจแก้ไขอดีตเพื่อเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในปัจจุบัน
6. ด่าน Death to the Empress
เข้าปราสาท Dunwall อีกครั้งเพื่อเผชิญหน้ากับ Delilah
เลือกวิธีการจัดการกับเธอ : สังหารหรือทำให้หมดอำนาจ
ฉากจบจะขึ้นอยู่กับระดับ Chaos ที่คุณสร้างขึ้นระหว่างเกม
เคล็ดลับสำคัญในการเล่น
การลอบเร้น
ใช้พลัง Blink หรือ Shadow Walk เพื่อเคลื่อนที่เงียบ ๆ
สังเกตเส้นทางลาดตระเวนของศัตรูเพื่อหลบหลีก
ซ่อนศพเพื่อป้องกันการแจ้งเตือน
การสำรวจ
เก็บ Runes และ Bone Charms เพื่ออัปเกรดพลัง
อ่านเอกสารและบันทึกในเกมเพื่อค้นหาเบาะแส
ตรวจสอบพื้นที่ซ่อนเพื่อค้นหาอาวุธและเงิน
การตัดสินใจ
ทุกการตัดสินใจส่งผลต่อระดับ Chaos ซึ่งมีผลต่อฉากจบ
ใช้วิธีการไม่ฆ่าเพื่อปลดล็อกฉากจบแบบ Low Chaos
หากต้องการความท้าทาย ให้ลองเล่นแบบ No Powers (ไม่ใช้พลังพิเศษ)
การต่อสู้
หากถูกพบ ใช้อาวุธ เช่น ดาบและหน้าไม้เพื่อป้องกันตัว
ใช้พลังเช่น Domino เพื่อเชื่อมโยงศัตรูหลายตัว และกำจัดพวกเขาพร้อมกัน