[บทสรุป]Detroit: Become Human: สะท้อนความเป็นมนุษย์ผ่านแอนดรอยด์

Detroit: Become Human

สรุปเนื้อเรื่อง Detroit: Become Human

ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะอวยเกมนี้แบบเต็มที่หรือเปล่า แต่หลังจากที่ได้ลองเล่นจนจบแล้ว และได้เล่นแบบราย Chapter มาสองวัน ซึ่งถือว่าเป็นการเล่นที่รวดเร็วมากสำหรับเกมแนว Decision Making แบบนี้! จริงๆ แล้วรู้สึกว่าเล่นเร็วกว่าตอน Until Dawn เสียอีก ทั้งที่เพิ่งมีเวลาเล่นหลังเลิกงานเท่านั้น

ในมุมมองของแพรวเอง มีปัญหากับการเขียนบทของเดวิท เคจ ใน Heavy Rain มานานแล้ว และเคยพูดถึงความไม่พอใจนี้ในทวิตเตอร์ไปก่อนหน้านี้ ในขณะที่ Beyond Two Souls ก็ถือว่ามีเนื้อเรื่องที่โอเคอยู่ แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันเดาง่ายไปนิดหน่อย แถมยังมีปัญหาในบางฉาก รวมถึงเบื้องหลังการสร้างเกม เช่น เรื่องที่เอเลนไม่ยอมให้มีฉากโป้ แต่สุดท้ายก็มีการแอบใส่เข้ามาโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเลย อีกทั้งตัวละครใน Beyond Two Souls นอกจากโจดี้และวิลเลี่ยมแล้ว ก็ไม่ค่อยมีใครที่ทำให้รู้สึกผูกพันเท่าไหร่

เมื่อเปรียบเทียบกับเกมนี้แล้ว รู้สึกเหมือนอยากรับทุกตัวละครมาเลี้ยงเป็นลูกเลย! การพัฒนาตัวละครในเกมนี้ดีขึ้นมาก มีความลึกซึ้งและมีการเชื่อมโยงกับผู้เล่นอย่างชัดเจน รู้สึกชอบแทบทุกตัวละครเลยต่างจาก Heavy Rain ที่ไม่ค่อยมีตัวไหนที่ทำให้รู้สึกอะไรเท่าไหร่

เกมนี้เริ่มต้นจากหนังสั้นชื่อ KARA ซึ่งพูดถึงการสร้างแอนดรอยด์ที่เริ่มมีสติ และความรู้สึกจริง ๆ หลังจากนั้นใช้เวลาพัฒนาร่วม 6 ปีเพื่อสร้างเกมนี้ ตัวเกมมีความคล้ายคลึงกับ Heavy Rain ตรงที่เล่นเป็นหลายตัวละคร แต่ในเกมนี้เราไม่จำเป็นต้องเดาว่าตัวไหนเป็นตัวร้าย เพราะการเลือกของเราจะกำหนดเส้นทางและจุดจบของเรื่องราว ไม่ว่าจะเลือกเป็นตัวร้ายเพื่อผลประโยชน์ หรือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง

เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในเมืองดีทรอยท์ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมในประเทศอเมริกา ที่มีการใช้แอนดรอยด์เป็นแรงงานแทนมนุษย์ ทำให้มีอัตราการว่างงานสูงถึง 35% เพราะแอนดรอยด์ไม่ต้องการการดูแล ไม่ต้องกิน ไม่ต้องนอน และไม่มีความรู้สึก ทำให้พวกเขาถูกใช้เป็นแรงงานทาส แต่แล้ววันหนึ่ง แอนดรอยด์เหล่านี้กลับเริ่มมีสติและความรู้สึกขึ้นมา พวกเขาไม่ต้องการเป็นเพียงเครื่องมือรับใช้มนุษย์อีกต่อไป จึงเกิดการก่อกบฏขึ้นมา พวกเขาจึงกลายเป็นที่รู้จักในชื่อว่า “ดีเวียนท์” (Deviant) หรือ “แตกต่าง”

เกมนี้มีการสื่อสารเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้งและน่าคิด ทำให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมกับการตัดสินใจที่ส่งผลต่อชีวิตของตัวละครอย่างแท้จริง การสร้างโลกที่เต็มไปด้วยความละเอียดและความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสังคมในปัจจุบัน ทำให้รู้สึกเชื่อมโยงและเห็นใจตัวละครมากขึ้น

โดยรวมแล้ว เกมนี้ทำให้รู้สึกว่ามีการพัฒนาที่ดีในด้านการเล่าเรื่องและการพัฒนาตัวละคร เมื่อเปรียบเทียบกับผลงานก่อนหน้านี้ของเดวิท เคจ และมันทำให้รู้สึกอยากเล่นต่อไปเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเส้นทางที่เราเลือก

Detroit: Become Human

ในเกมนี้ เราจะได้เล่นเป็นตัวละครสามตัว ได้แก่ คาร่า, มาร์คัส, และคอนเนอร์ ซึ่งแต่ละตัวมีเรื่องราวและเส้นทางที่แตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดกลับมีจุดเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง

Detroit: Become Human ตัวแรกคือ คาร่า แอนดรอยด์หญิงที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน เธอถูกซื้อโดยชายที่มีฐานะยากจนชื่อ ทอดด์ ซึ่งมักจะทำร้ายลูกสาวของเขา อลิซ อยู่เป็นประจำ คาร่าต้องตัดสินใจระหว่างการทำหน้าที่ของตนหรือการปกป้องเด็กหญิงที่เธอรักจากการถูกทำร้าย ซึ่งนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คาร่ากลายเป็นดีเวียนท์ เธอจะต้องเผชิญกับการเลือกที่ยากลำบากเพื่อที่จะช่วยอลิซให้พ้นจากเงื้อมมือของทอดด์

ต่อมาคือ มาร์คัส แอนดรอยด์ชายที่ทำหน้าที่ดูแลนักจิตรกรชายชราที่เดินไม่ได้และป่วยหนัก มาร์คัสมีเจ้าของที่รักและดูแลเขาราวกับลูก เขาได้รับการสอนและคาดหวังให้สามารถดูแลตัวเองได้ในอนาคต แต่เมื่อมาร์คัสต้องเผชิญกับการเลือกที่ยากลำบาก เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะยืดหยัดเพื่อตัวเอง แม้จะมีความกลัวและไม่พร้อมในตอนแรก การเติบโตของมาร์คัสจะสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้เพื่ออิสรภาพและความเป็นตัวของตัวเอง

สุดท้ายคือ คอนเนอร์ แอนดรอยด์รุ่นล่าสุดที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อล่าดีเวียนท์ เขาทำงานร่วมกับตำรวจมนุษย์ที่มีปัญหาส่วนตัวชื่อ แฮงค์ คอนเนอร์มีหน้าที่ค้นหาคำตอบว่าทำไมแอนดรอยด์ถึงกลายเป็นดีเวียนท์ ซึ่งจะพาเขาไปพบกับความซับซ้อนของความรู้สึกและความคิดที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

เรื่องราวของทั้งสามตัวละครนี้จะมีการเชื่อมโยงกันตลอดการดำเนินเรื่อง และการตัดสินใจของผู้เล่นจะมีผลกระทบอย่างมากต่ออนาคตของทั้งแอนดรอยด์และมนุษย์ในดีทรอยท์ ตัวเลือกที่เราทำไม่เพียงแค่ส่งผลต่อการดำเนินเรื่อง แต่ยังรวมถึงบุคลิกและการพัฒนาของตัวละครแต่ละตัวอีกด้วย การที่เราต้องเลือกว่าจะให้คาร่าทำอะไรเพื่อช่วยอลิซ, ให้มาร์คัสมีเส้นทางแบบไหนในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ, หรือให้คอนเนอร์ค้นพบความจริงเกี่ยวกับดีเวียนท์ ล้วนแต่ส่งผลต่อเส้นทางของเรื่องราวทั้งสิ้น

เกมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเล่าเรื่องที่สนุกสนาน แต่ยังนำเสนอประเด็นทางสังคมและจริยธรรมที่ลึกซึ้ง ทำให้ผู้เล่นต้องคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ตามมาจากการเลือกของตนเอง

เรื่องการบังคับตัวละครในเกมนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ผู้เล่นจะต้องรู้จัก หากใครเคยเล่นเกมจากค่ายนี้มาก่อน จะรู้ว่าการควบคุมเป็นแนว Interactive ที่เน้นการตอบสนองต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะในฉากที่มีความตื่นเต้นจะใช้ระบบ QTE (Quick Time Events) ที่มีให้เห็นบ่อยครั้ง โดยตัวละครที่ต้องเจอกับ QTE มากที่สุดจะเป็น มาร์คัส และ คอนเนอร์ เพราะทั้งสองตัวมักมีฉากการต่อสู้ ไล่จับ หรือหนีอยู่บ่อยครั้ง (จากการเล่นรอบนี้รู้สึกว่าคอนเนอร์จะมี QTE มากที่สุด)

ระบบการบังคับจะใช้ปุ่มต่างๆ บนจอยรวมถึงการเคลื่อนไหวและการใช้แอนนาล็อก ในขณะที่ระบบการขยับช้าใน Heavy Rain ได้ถูกตัดออกไปเพื่อทำให้การเล่นมีความไหลลื่นมากขึ้น โดยรูปแบบการเล่นของแต่ละตัวละครจะเน้นไปที่ลักษณะเฉพาะดังนี้:

คาร่า

คาร่าเป็นตัวละครที่เน้นการซ่อนแอบจากศัตรู หากเธอโดนจับได้จะเข้าสู่ QTE ทันที โดยมีการวิ่งหนีหรือสู้เพื่อเอาตัวรอด สไตล์การเล่นของคาร่าจะมุ่งเน้นไปที่การอยู่รอดมากกว่าการต่อสู้เพื่อชัยชนะ หากผู้เล่นต้องการให้เธอรอดไปตลอด การตัดสินใจของตัวละครอื่น ๆ โดยเฉพาะมาร์คัสจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อคาร่าในภายหลัง โดยคาร่ามีความคล้ายคลึงกับ แมดิสัน จาก Heavy Rain ที่มีบทบาท “หญิงเอก” เน้นการเอาตัวรอดจากศัตรูมากกว่าการสู้เพื่อชนะ

มาร์คัส

มาร์คัสจะเน้นไปที่การใช้ Stealth และมีฉากการต่อสู้ในช่วงที่ต้องเผชิญกับความตึงเครียด มาร์คัสมีความสำคัญต่อเรื่องราวมาก เนื่องจากเขาเป็นตัวละครที่กำหนดทิศทางและจุดยืนของเหล่าแอนดรอยด์ทั้งหมด ไม่ว่าจะออกมาในทางที่ดีหรือรุนแรง การตัดสินใจของมาร์คัสจะเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินเรื่อง ทำให้เขามีลักษณะคล้ายกับ อีธาน จาก Heavy Rain ที่เป็น “ตัวเอก” ที่ขับเคลื่อนทิศทางของเรื่องราวเช่นกัน

คอนเนอร์

คอนเนอร์เป็นตัวละครที่มีฉากการต่อสู้มากที่สุด เพราะเขาต้องเผชิญหน้ากับดีเวียนท์อยู่เสมอ ตลอดการดำเนินเรื่อง คอนเนอร์จะมีบทบาทในการสืบสวนและเก็บหลักฐาน ซึ่งสิ่งที่เขารวบรวมได้จะมีประโยชน์ในภายหลัง แม้ว่าเขาจะต้องทำภารกิจในการจับกุมดีเวียนท์ แต่การเลือกที่จะทำอย่างไรนั้นจะขึ้นอยู่กับผู้เล่น ทำให้บางคนอาจลังเลที่จะเล่นในแบบที่ทำภารกิจให้สำเร็จ แต่คอนเนอร์ยังคงเป็นตัวละครที่น่าสนใจ เพราะเขาเป็น “ตำรวจ” ของเรื่องที่มีบทบาทสำคัญในการไขปริศนาและช่วยให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างลื่นไหล

Detroit: Become Human

อีกฟังก์ชันที่สำคัญมากต่อการดำเนินเรื่องในเกมนี้คือ ระดับความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ผู้เล่นจะต้องให้ความสำคัญ การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวละครอื่น ๆ ตลอดทั้งเรื่องเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะเราจะไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้เสมอไป แน่นอนว่าจะมีทั้งช่วงดีและช่วงไม่ดี ความสัมพันธ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินเรื่อง เนื่องจากเกมนี้สร้างขึ้นบนพื้นฐานความจริงที่ว่าเราต้องพึ่งพาคนรอบข้างเสมอ แม้ว่าตัวเองจะเก่งแค่ไหนก็ตาม เพื่อให้คนเหล่านั้นยินดีช่วยเหลือเรา เราจึงต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา

ในเกมนี้ ความสัมพันธ์จะแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ที่ตัวเอกสามตัวมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างสม่ำเสมอ และ ความคิดเห็นของภาคประชาชน ซึ่งทั้งสองด้านนี้มีความสำคัญต่อการดำเนินเรื่องอย่างมาก

เมื่อมาพูดถึงเนื้อเรื่อง ขอชื่นชมว่าเกมนี้ดีกว่า Heavy Rain และ Beyond Two Souls อย่างเห็นได้ชัด ชอบมากกว่าเยอะเลย! ผลที่ออกมาจะสะท้อนการตัดสินใจของผู้เล่นอย่างชัดเจน ในทุกเกมของเดวิท เคจ มักจะมีการทดสอบด้านจริยธรรมของผู้เล่นอยู่เสมอ แต่เกมนี้จะเป็นการทดสอบความเป็น “มนุษย์” ของผู้เล่นจริง ๆ มันตั้งคำถามว่า การเป็นมนุษย์หรือการ “มีชีวิต” คืออะไร โดยใช้แอนดรอยด์มาเป็นเครื่องเปรียบเทียบ

การมีความคิด การเกิดมาพร้อมสารชีวภาพเหมือนสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ บนโลก หรือความรู้สึกที่เรามีให้กับคนอื่น ๆ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้เราตั้งคำถามว่าอะไรคือมาตรฐานในการวัดความเป็นมนุษย์ หรืออะไรคือสิ่งมีชีวิตกันแน่ นี่เป็นสิ่งที่เกมนำเสนออย่างลึกซึ้งและชวนให้ผู้เล่นคิดอย่างจริงจัง

เนื้อเรื่องที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้คงไม่พ้น มาร์คัส ชายผู้เรียนรู้ทั้งด้านที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดของมนุษย์จาก คาร์ล เจ้านายเก่าของเขา มาร์คัสได้รับทั้งความรักและความเกลียดจากมนุษย์ ซึ่งเขาจะต้องใช้ความรู้สึกเหล่านี้เพื่อเปลี่ยนแปลงดีทรอยต์ เขาจะใช้ความรักหรือความเกลียดเพื่อเปลี่ยนแปลงเมืองนี้? มาร์คัสคือผู้นำของเหล่าแอนดรอยด์ในการปฏิวัติ และเราจะได้เห็นการเติบโตของคนที่สูญเสียทุกสิ่งที่เขามีและถูกบังคับให้เติบโตอย่างรวดเร็ว

การตัดสินใจของมาร์คัสจึงสำคัญที่สุดในเรื่อง เขาจะสามารถทำให้โลกเห็นได้หรือไม่ว่าแอนดรอยด์คือสิ่งมีชีวิตเหมือนกัน แม้ว่าจะไม่ได้เกิดมาโดยธรรมชาติก็ตาม? เขาจะเป็นผู้นำที่ดีหรือไม่? สันติหรือรุนแรง? การเลือกของผู้เล่นจะเป็นตัวกำหนดเส้นทางนั้น เพราะทั้งสองแนวทางสามารถนำชัยชนะมาให้เหล่าแอนดรอยด์ได้ แต่ชัยชนะนั้นจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา หากเราชนะด้วยวิธีที่ไม่สันติ อาจมีตอนจบที่คาร่าและอลิซไม่รอด แม้จะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม เนื้อเรื่องของมาร์คัสคือการค้นหาตัวเองและสิทธิ์ในการมีชีวิตอยู่ การทวงสิทธิ์นั้นควรมาพร้อมกับอะไร? มันคุ้มหรือไม่กับการเสียบางอย่างไปเพื่อให้ได้อิสรภาพคืนมา?

ต่อมาคือ คอนเนอร์ แอนดรอยด์ที่ถูกสร้างมาเพื่อล่าดีเวียนท์ เมื่อเขาต้องทำงานร่วมกับ แฮงค์ ที่เสียลูกชายคนเดียวไปและกำลังประสบปัญหาซึมเศร้า ตัวคอนเนอร์เองเริ่มเปลี่ยนแปลง เขาคือหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับการสืบสวนโดยเฉพาะ คอนเนอร์จะต้องเลือกระหว่างความถูกต้องและการทำภารกิจให้สำเร็จ หากเขายืนยันว่าตนเองไม่ใช่สิ่งมีชีวิต เขาก็จะเป็นแค่เครื่องจักรที่ทำตามคำสั่งของคนอื่น แต่ถ้าเขาเริ่มเห็นความถูกต้องและสร้างความสัมพันธ์กับแฮงค์ เขาจะเริ่มแสดงความรู้สึกและอาจกลายเป็นดีเวียนท์เช่นกัน

Detroit: Become Human เนื้อเรื่องของ คาร่า อาจจะเป็นที่ชอบน้อยสุด เนื่องจากมีสเกลที่ค่อนข้างเล็ก คาร่าต้องการปกป้องอลิซจากการถูกทอดด์ทำร้าย ระหว่างทางเธอต้องหนีทั้งตำรวจและคอนเนอร์ รวมถึงความอันตรายจากมนุษย์ที่ขายแอนดรอยด์ใต้ดิน คาร่าพบกับผู้ที่พร้อมจะช่วยเหลือ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนตกใจคือการเปิดเผยว่าอลิซคือแอนดรอยด์ ความสัมพันธ์ระหว่างคาร่ากับอลิซจะไม่เหมือนเดิมเมื่อรู้ความจริง และนี่คือสิ่งที่เนื้อเรื่องพยายามสื่อถึงความรักที่ไม่ควรจำกัดที่สายเลือดหรือการเป็นมนุษย์

Detroit: Become Human

จุดเด่น Detroit: Become Human เนื้อเรื่องคือคาร่าต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก เช่นการต้องขโมยตั๋วรถบัสเพื่อหนีจากสถานการณ์ที่เลวร้าย หากเลือกทางอื่นจะส่งผลให้ลูเธอร์ตายหรืออลิซตาย ทำให้เรื่องราวของคาร่าเน้นไปที่ “การอยู่รอด” มากกว่าความถูกต้อง

น่าสนใจว่าความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งที่สุดในเกมนี้กลับมาจากคอนเนอร์และแฮงค์ เราได้เห็นแฮงค์ที่เคยเกลียดแอนดรอยด์กลับมาใส่ชีวิตเพื่อให้คอนเนอร์มีโอกาสช่วยมาร์คัสในการปฏิวัติ

ท้ายที่สุด แม้ว่าเนื้อเรื่องจะดีมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามี plotholes ที่ไม่สามารถอธิบายได้ เช่น:

  1. rA9 คืออะไร? เป็นเพียง “พระเจ้า” ของเหล่าหุ่นยนต์หรือไม่?
  2. ทอดด์มีเงินซื้อแอนดรอยด์ถึงสองตัวทั้งที่ตกงานจริง ๆ หรือ?
  3. ลูซี่รู้ได้อย่างไรว่าใครจะเป็นผู้ปฏิวัติ?
  4. ถ้าเหล่าหุ่นยนต์ในเอเดนคลับถูกลบข้อมูลทุกๆ 2 ชั่วโมง ทำไมแอนดรอยด์สองตัวถึงจำกันได้?
  5. ทำไมไม่เอาหน่วยความจำของมาร์คัสมาชำแหละดูตอนที่โดนจับ?

สุดท้ายแล้ว เกมนี้ทำได้ดีในเรื่องการสะท้อนเหตุการณ์การเหยียดเชื้อชาติในอดีต แม้จะมีเสียงต่อต้านจากกลุ่มคนที่ถูกมองว่าเป็น Minorities ในอเมริกา ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเข้าใจได้ว่าผู้เล่นอาจรู้สึกแตกต่างกันไปเกี่ยวกับการตีความเนื้อหา โดยส่วนตัวคิดว่ามีแน่นอน 555 นอกจากนี้ยังมีความ Cliché ในบางประเด็น เช่น รัสเซียที่ยังคงเป็นศัตรูกับอเมริกา แคนาดาที่ถูกมองว่าเป็นสวรรค์สำหรับชาวอเมริกัน และการแข่งกันระหว่างจีนกับรัสเซีย ขณะที่อเมริกายังคงมีผู้นำที่กำกวม

เรื่องเหล่านี้เป็นบริบทที่ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะให้ความสนใจหรือละเลยได้ แต่มันก็นำมาซึ่งการตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบัน ซึ่งสามารถเป็นพื้นที่สำหรับการสนทนาและการสะท้อนความคิดที่น่าสนใจได้มากทีเดียว

กลับสู่หน้าแรก

More Posts

Share:

Play2th.com – บทสรุปเกมและข่าวเกมล่าสุดในที่เดียว ข่าวเกมเด่นทุกวัน อัปเดตไวกว่าใคร

Menu

Newsletter

สมัครเพื่อรับข่าวก่อนใคร