[สูตรเกม]Witchfire สัมผัสการผจญภัยในโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ความมืด

Witchfire

จากไซไฟสู่ดาร์กแฟนตาซี: การวิวัฒนาการของ Witchfire

จากจุดเริ่มต้นในฐานะเกมเอาชีวิตรอดไซไฟสู่เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งในแนวดาร์กแฟนตาซีแบบ Roguelite นั้นไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน นี่คือการเดินทางของทีมพัฒนา The Astronauts ที่ใช้เวลากว่า เจ็ดปี ในการพัฒนาและปรับเปลี่ยนทิศทางของเกมหลายครั้ง โดยเริ่มจากเกมที่มีธีมไซไฟและการเอาชีวิตรอด ก่อนที่จะค่อย ๆ วิวัฒนาการมาเป็นเกมยิงที่มีระบบ Roguelite และการผสมผสานระหว่างการใช้ ปืน กับ เวทมนตร์ ภายในโลกแห่งดาร์กแฟนตาซี

เริ่มต้นในช่วงแรก ๆ ด้วยการตั้งเป้าหมายที่จะเป็นเกมเอาชีวิตรอดในโลกไซไฟที่มีการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากสิ่งมีชีวิตต่างมิติหรืออุปสรรคทางเทคโนโลยีสุดล้ำ แต่ในระหว่างกระบวนการพัฒนา ทีมงานได้พบว่า แนวทางนั้นไม่ได้สะท้อนความคิดที่แท้จริงของพวกเขาเท่าไหร่ จึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนแนวทางใหม่ให้เกมมีความเป็น ดาร์กแฟนตาซี ที่มีทั้งการยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS) และกลไก Roguelite ที่ให้ความรู้สึกท้าทายและคุ้มค่าทุกครั้งที่ตายไป

Witchfire

คู่มือการเล่น Witchfire: การผจญภัยของนักล่าแม่มดในโลกแห่งความมืด

คุณจะได้สวมบทเป็น Preyer นักล่าแม่มดจากศาสนจักรที่ถูกฝึกฝนมาเพื่อกำจัดสิ่งที่ไม่ควรมีในโลกนี้—แม่มดและสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ที่สั่งสมอำนาจมืด เราจะพาคุณไปรู้จักกับระบบต่างๆ ในเกม, วิธีการเล่น, กลยุทธ์, และเนื้อเรื่องที่มีความลึกลับมากมาย ที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาชีวิตรอดได้ในโลกที่โหดร้ายแห่งนี้

หากคุณเคยเล่นเกมยิงแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS) หรือเกมแนว Roguelite มาก่อน จะนำคุณไปสู่ความท้าทายที่ไม่เหมือนเกมไหน ๆ โดยผสมผสานระหว่างการยิงปืน, การสำรวจ, การใช้เวทมนตร์ และการเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายได้อย่างลงตัว

1. Preyer: นักล่าแม่มดที่ถูกฝึกฝนมาเพื่อการนี้

ในฐานะ Preyer, คุณจะเป็นนักล่าแม่มดที่ถูกฝึกฝนโดยศาสนจักรให้เป็นผู้กำจัดสิ่งที่ไม่ควรมีในโลกนี้—แม่มดและอำนาจมืดต่างๆ โดยคุณจะใช้ทั้ง ปืน และ เวทมนตร์ เป็นอาวุธหลักในการต่อสู้

Preyer คือคนที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตใหม่ในรูปแบบของ “นักล่าอมตะ” การตายของคุณในเกมจะไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุด คุณจะกลับมาลุยใหม่เสมอ แต่การที่คุณตายไม่ได้ทำให้ทุกอย่างหมดสิ้น—กลับกันมันจะยิ่งทำให้คุณได้เรียนรู้และเตรียมตัวให้พร้อมกว่าเดิมในครั้งถัดไป

2. ระบบ Roguelite: ทุกการเล่นคือการเริ่มต้นใหม่

เกมนี้ใช้ระบบ Roguelite ที่เป็นเอกลักษณ์ในวงการเกม ซึ่งหมายความว่าเมื่อคุณตาย คุณจะต้องเริ่มต้นใหม่จากจุดเริ่มต้น แต่การเล่นแต่ละครั้งก็ไม่ได้เหมือนกันเลย! ทุกครั้งที่เริ่มเล่นใหม่ จะมีการสุ่มแผนที่, ศัตรู, และไอเทมต่างๆ ที่จะให้ประสบการณ์ใหม่ทุกครั้งที่เล่น

การตายและการกลับมาใหม่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ใน Witchfire แต่ที่น่าสนใจคือ การตายไม่ได้เป็นแค่การสูญเสีย ทุกครั้งที่คุณตาย คุณจะได้เรียนรู้จากการผิดพลาดและสร้างกลยุทธ์ใหม่ในการต่อสู้ ซึ่งทำให้การเล่นเกมนี้มีความท้าทายและไม่เบื่อหน่าย

Witchfire

เคล็ดลับในการเล่น:

  • อย่ากลัวการตาย เพราะมันคือโอกาสในการเรียนรู้และเตรียมตัวให้ดีขึ้น
  • ใช้ทุกครั้งที่ตายเพื่อสำรวจสิ่งใหม่ๆ และปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณ

3. การต่อสู้: ปืนและเวทมนตร์คือกุญแจสู่ชัยชนะ

ระบบการต่อสู้ เป็นการผสมผสานระหว่างการใช้ ปืน และ เวทมนตร์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการโจมตีระยะใกล้และระยะไกล

  • ปืน: คุณสามารถเลือกใช้ปืนหลากหลายประเภทในระหว่างการเดินทาง เช่น ปืนพก, ไรเฟิล, และ ปืนใหญ่ ต่างๆ ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ การเลือกใช้อาวุธที่เหมาะสมกับสถานการณ์เป็นสิ่งสำคัญในการเอาชีวิตรอด
    • ปืนพก: เหมาะสำหรับการต่อสู้ระยะใกล้ การโจมตีเร็ว
    • ไรเฟิล: เหมาะกับการยิงระยะกลางถึงไกล ใช้จัดการศัตรูที่อยู่ห่างออกไป
    • ปืนใหญ่: มีพลังทำลายสูง เหมาะกับการจัดการศัตรูจำนวนมากหรือศัตรูที่แข็งแกร่ง
  • เวทมนตร์: เวทมนตร์ในเกมนี้คือสิ่งที่ทำให้ Preyer แตกต่างจากนักล่าอื่นๆ เวทมนตร์มีหลากหลายประเภท เช่น
    • ไฟ: ทำให้ศัตรูติดไฟและได้รับความเสียหายต่อเนื่อง
    • น้ำแข็ง: ชะลอการเคลื่อนไหวของศัตรู
    • สายฟ้า: ใช้โจมตีศัตรูหลายตัวในคราวเดียว

การใช้ เวทมนตร์ ควบคู่กับการยิงปืนอย่างมีระเบียบจะทำให้คุณมีโอกาสเอาชนะศัตรูได้ง่ายขึ้น และสามารถควบคุมสถานการณ์ในศึกได้

Witchfire

เคล็ดลับในการต่อสู้:

  • ใช้เวทมนตร์เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของศัตรูให้ช้าลง เพื่อที่จะยิงได้แม่นยำขึ้น
  • จัดการกับศัตรูที่อยู่ไกลให้เร็วที่สุด โดยใช้ปืนที่มีระยะยิงไกล และใช้เวทมนตร์เมื่อจำเป็น

4. การสำรวจ: โลกที่ไม่เคยหยุดหมุน

การสำรวจโลกคือกุญแจสำคัญในการเอาชีวิตรอด คุณจะต้องสำรวจแผนที่เพื่อหา ทรัพยากร, ไอเทม และ ข้อมูลลับ ที่ซ่อนอยู่ในโลกนี้

  • แผนที่ที่สุ่ม: ทุกครั้งที่คุณเริ่มเกมใหม่ แผนที่และตำแหน่งของศัตรูจะถูกสุ่มใหม่ทั้งหมด ทำให้การสำรวจทุกครั้งนั้นแตกต่างไปจากเดิม
  • ทรัพยากรสำคัญ: กระสุน, พลังเวทมนตร์, และไอเทมที่หายาก เช่น เครื่องมือเวทมนตร์ หรือ วัสดุอัพเกรด จะอยู่ในพื้นที่ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งต้องใช้การสำรวจที่ละเอียดเพื่อค้นหา

เคล็ดลับในการสำรวจ:

  • สำรวจให้ทั่วเพื่อหาไอเทมและทรัพยากรที่สำคัญ
  • ระมัดระวังในพื้นที่สุ่มภัย เพราะบางครั้งศัตรูอาจซุ่มโจมตีคุณจากทางที่คุณไม่คาดคิด

5. การพัฒนาตัวละคร: ก้าวสู่ความแข็งแกร่ง

คุณสามารถพัฒนาตัวละครของคุณให้แข็งแกร่งขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ระบบ RPG ที่ละเอียดจะช่วยให้คุณสามารถเลือกอัพเกรดได้ตามสไตล์การเล่นของคุณ

  • พลังชีวิต: เพิ่มพลังชีวิตเพื่อให้ทนทานต่อการโจมตีจากศัตรูได้ดีขึ้น
  • พลังเวทมนตร์: เพิ่มพลังเวทมนตร์เพื่อให้คุณสามารถใช้เวทมนตร์ได้บ่อยขึ้น
  • อาวุธ: อัพเกรดอาวุธให้มีพลังทำลายสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเจอศัตรูที่มีความทนทานสูง

เคล็ดลับในการพัฒนา:

  • อัพเกรดตามสไตล์การเล่นของคุณ เช่น ถ้าคุณเน้นการยิงไกล ควรอัพเกรดปืนและเพิ่มความเร็วในการยิง
  • อย่าลืมพัฒนาความทนทานด้วยการเพิ่มพลังชีวิต เพราะในบางครั้งศัตรูอาจโจมตีคุณแรงมาก
Witchfire
Witchfire

6. โลกและเรื่องราว: ค้นหาความลับในตำนาน

ตำนาน และ เรื่องราว ที่ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อคุณสำรวจไปเรื่อยๆ โลกนี้มีการออกแบบที่ซับซ้อน และเต็มไปด้วยสิ่งลึกลับที่คุณต้องค้นหาด้วยตัวเอง

การรู้จักโลกและเรื่องราวใน Witchfire จะทำให้คุณเข้าใจถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการล่ามเหม่าของ Preyer และความลับต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในความมืด เริ่มเปิดให้เล่นระหว่างพัฒนาวันที่ 20 ก.ย. แต่คุณสามารถเพิ่มเกมลงในรายการที่ชื่นชอบได้ที่ steam ตอนนี้ได้เลย

กลับสู่หน้าแรก

More Posts

Share:

Play2th.com – บทสรุปเกมและข่าวเกมล่าสุดในที่เดียว ข่าวเกมเด่นทุกวัน อัปเดตไวกว่าใคร

Menu

Newsletter

สมัครเพื่อรับข่าวก่อนใคร