Uncharted การผจญภัยตามหาสมบัติและความลับ
นาธาน เดรกค้นพบโลงศพที่หายไปของเซอร์ฟรานซิส เดรก ซึ่งถูกฝังอยู่ในทะเลกว่า 400 ปี ที่การค้นพบนี้ทำให้เขาตื่นเต้นและหวังว่าจะเป็นเบาะแสสำคัญในการผจญภัยครั้งใหม่ เอเลน่า ฟิชเชอร์เข้ามาช่วยเขาบันทึกเหตุการณ์เพื่อถ่ายทำสารคดี ทำให้การค้นหาครั้งนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
เนทและเอเลน่าได้สำรวจโลงศพที่ว่างเปล่าในพื้นที่ที่ห่างไกล ซึ่งทำให้พวกเขาประหลาดใจเมื่อพบไดอารี่เล่มหนึ่งที่เขียนโดยเซอร์ฟรานซิส บูมบี้ เนทอ้างว่าเซอร์ฟรานซิสเป็นบรรพบุรุษของเขาและเชื่อว่าท่านแกล้งตายเพื่อหลีกเลี่ยงการตามล่าในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต เพื่อตามหาขุมทรัพย์ที่มีค่าที่สุดอย่างที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน เมื่อพวกเขาตระหนักถึงความจริงนี้ ก็เกิดความตื่นเต้นในการค้นหาขุมทรัพย์ที่เซอร์ฟรานซิสทิ้งไว้ หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็ถูกโจรสลัดซุ่มโจมตี พวกเขาต่อสู้กับเหล่าโจรสลัดอย่างดุเดือด แต่ในระหว่างการต่อสู้ เรือของพวกเขาถูกทำลายจนเกือบจม ทำให้เนทและเอเลน่าต้องกระโดดลงไปในมหาสมุทรเพื่อเอาชีวิตรอด ในขณะที่คลื่นซัดกระหน่ำอยู่รอบตัว พวกเขาหวังว่าจะมีคนมาช่วยเหลือ ในที่สุดวิกเตอร์ ซัลลิแวน เพื่อนเก่าของเนท มาพร้อมเครื่องบินทะเลและช่วยพวกเขาขึ้นมาได้อย่างทันท่วงที เมื่อกลับมายังฝั่ง เนทได้อธิบายการค้นพบที่สำคัญนี้ให้ซัลลีฟัง โดยอิงจากบันทึกของ Drake ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเป้าหมายสุดท้ายในการล่าขุมทรัพย์ครั้งนี้คือการตามหา El Dorado เมืองทองคำที่ถูกลืมเลือน เนทและซัลลีจึงตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไปยังป่าอเมซอนเพื่อค้นหาเมืองในตำนานนี้ ถึงแม้จะรู้ดีว่าการเดินทางในป่านี้เต็มไปด้วยความเสี่ยง พวกเขายังรู้สึกถึงแรงดึงดูดของขุมทรัพย์ที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาได้ เมื่อเข้าไปในป่าอเมซอน พวกเขาพบซากปรักหักพังของอารยธรรมอเมริกาใต้โบราณซึ่งบอกเล่าเรื่องราวที่สูญหายไปนาน พร้อมทั้งเบาะแสที่บ่งชี้ว่า El Dorado ไม่ใช่เมืองทองคำที่คนเคยเชื่อ แต่เป็นรูปปั้นทองคำขนาดใหญ่ที่ถูกทำลายไปเมื่อหลายศตวรรษก่อน ทั้งสองจึงตั้งใจที่จะสืบค้นความจริงนี้ให้กระจ่าง ก่อนที่เวลาจะหมดไปและศัตรูจะเข้ามาขัดขวาง.
แรงจูงใจที่ทำให้พวกเขาต้องค้นหาเอลโดราโด้
ซัลลีเปิดเผยกับเนทว่าตนมีหนี้สินและต้องการทองคำเพื่อชำระหนี้ ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขาต้องค้นหาเอลโดราโด้อย่างจริงจัง ในขณะที่เนทเข้าไปสำรวจเรือดำน้ำคนเดียว เขาพบเหรียญทองสเปนและแผนที่ที่ชี้ไปยังเกาะเขตร้อน ซึ่งอาจเป็นเบาะแสสำคัญในการตามหาสมบัติ อย่างไรก็ตาม ความตื่นเต้นก็ต้องมาพร้อมกับอันตราย เมื่อกาเบรียล โรมัน นักล่าสมบัติตัวยงปรากฏตัวขึ้น โดยเขามีอาทอก นาวาร์โร มือขวาที่มีความชำนาญในการต่อสู้ ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น เนทและซัลลีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการวางแผนเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับโรมันและกลุ่มทหารรับจ้างที่อันตราย การผจญภัยครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทดสอบทักษะและความกล้าหาญของพวกเขา แต่ยังสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างเนทและซัลลี ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายและความเครียดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งคู่จะต้องร่วมมือกันเพื่อหาทางออกและค้นหาสมบัติในที่สุด
มันถูกเปิดเผยว่าซัลลีเป็นหนี้โรมัน และเขาสัญญากับโรมันว่าจะชดใช้ให้ด้วยโชคลาภจากเอลโดราโด อย่างไรก็ตาม โรเมนเลือกที่จะติดตามข้อมูลของ ซัลลี่และค้นหาสมบัติด้วยตัวเอง พวกเขาหยิบแผนที่จากเนทและเตรียมจะฆ่าเขา แต่เมื่อซัลลีพยายามเข้าไปแทรกแซง โรมันก็ยิงเขาแทน ก่อนที่เรือดำน้ำจะระเบิดจากตอร์ปิโด ที่เนทไปถูกโดยไม่ได้ตั้งใจ เนทใช้ความวุ่นวายนี้เพื่อหนีจากโรมันและนาวาร์โร แล้ววิ่งเข้าไปหาเอเลน่า ผู้ชกหมัดหนักเข้าที่ใบหน้าของเนท เพราะทิ้งเธอไว้ที่ท่าเรือ หลังจากแจ้งการตายของซัลลี กับเธอ ทั้งสองก็ทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกจากป่าฝน และหลบหนีจากพวกทหารรับจ้าง
พวกเขาหลบหนีด้วยเครื่องบินของ Sully และกำลังเดินทางไปยังเกาะที่ไม่มีใครพบเห็น ซึ่งเชื่อกันว่ามีรูปปั้นทองคำอยู่
แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ขึ้น
เครื่องบินถูกยิง เอเลน่าต้องกระโดดร่มแยกทางกันกับเนท
เนทเดินทางไปยังซากเครื่องบิน เพื่อไปเอาแผนที่ออกมา เขาเห็นร่มชูชีพของเอเลน่าห้อยลงมาจากป้อมปราการที่อยู่ใกล้เคียง เนทต้องไปช่วยเอเลน่า
แต่กลายเป็นว่า เนทถูกจับซะเองคับ
ในคุก เผยให้เห็นว่าหัวหน้ากลุ่มโจรสลัดหมวกฟางก็คือ เอ็ดดี้ ราชา อดีตเพื่อนร่วมงานของเนทนั่นเอง
เอ็ดดี้พยายามทำข้อตกลงกับเนท ซึ่งเขาจะไว้ชีวิตเนทถ้าเขาจะนำพาไปสู่ทองคำ
ไม่นานหลังจากนั้น เอเลน่าก็มาช่วยเนท
และทั้งสองคนก็หนีกันออกมาโดยรถจี๊บ
และพวกเขาใช้รถจี๊ปหนีข้ามเกาะจนมาสุดทางตันที่เมืองที่ถูกน้ำท่วม เมื่อมาถึงจุดนี้ เนทตัดสินใจเลิกตามล่าสมบัติเพราะว่าพวกเขาไม่สู้กับพวกโจรสลัด เพราะเชื่อว่ามันไม่คุ้มกับชีวิตของเขา
เนทและ Elena ใช้เจ็ตสกีเพื่อสำรวจเมืองที่ถูกน้ำท่วมเพื่อค้นหาเรือหลบหนี
ขณะทำเช่นนั้น ทั้งสองได้เดินผ่านด่านศุลกากรและค้นพบผ่านสมุดบันทึกว่ารูปปั้นเอลโดราโดถูกย้ายเข้าไปอยู่ในแผ่นดินมากขึ้น เมื่อเนทได้ดูแล้ว เขาไม่มั่นใจแต่ตั้งใจที่จะหาซัลลี่ให้พบ ไม่ว่าจะเพื่อช่วยเขาหรือเผชิญหน้ากับเขา โดยบอกกับเธอว่ายังไงก็จะเผชิญหน้ากับซัลลีอยู่ดี ล้มเลิกแผนหลบหนีโดยเรือ
ทั้งสองมุ่งหน้าไปทางเหนือ ขี่เจ็ตสกีอีกตัวไปที่อาราม
ที่ซึ่งพวกเขาต่อสู้ผ่านสมุนของนาวาร์โร
จนพบกับ Sully เขาอธิบายว่าสมุดบันทึกที่ Nate มอบให้นั้นปกป้องเขาจากกระสุนปืน และเขาเชื่อว่า Roman ปล่อยให้เขาช่วยหาสมบัติ เพียงเพื่อที่เขาจะได้ป้อนข้อมูลที่ไร้ประโยชน์เพื่อซื้อเวลาให้ตัวเอง
ทั้งสามคนพบอุโมงค์ที่มีลักษณะเหมือนเขาวงกตหลายชุดอยู่ใต้อาราม โดยที่เนทจะไปกับซัลลี่แค่สองคน
ในอุโมงค์เหล่านี้ เนทได้ยินการโต้เถียงกันระหว่างโรมัน นาวาร์โร และเอ็ดดี้ ซึ่งเปิดเผยว่าโรมันจ้างเอ็ดดี้ให้จับ Nate และรักษาเกาะนี้ให้ปลอดภัย โดยรางวัลที่ได้รับก็คือส่วนแบ่งของเอล โดราโด
หลังจากการหลบหนีของเนท โรมันสงสัยในความสามารถของเอ็ดดี้ในการทำงานของเขา และเพิกเฉยต่อคำกล่าวอ้างที่เชื่อโชคลางของเขาว่ามีบางสิ่งที่ถูกสาปบนเกาะนั้นฆ่าคนของเขาไป ทำให้โรมันต้องไล่เอดดี้และลูกทีมออกไป
เนทและเอเลน่าพบทางเดินที่นำไปสู่ห้องเก็บสมบัติขนาดใหญ่ ซึ่งพวกเขาพบศพของฟรานซิส เดรก โดยสันนิษฐานว่าเขาเสียชีวิตบนเกาะนี้เพื่อค้นหาสมบัติ
ก่อนที่พวกเขาจะดำเนินการต่อ นาธานและซัลลีได้พบกับเอ็ดดี้และลูกทีมอีกครั้ง ขณะที่พวกเขากำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีความเร็วและพละกำลังอันเหลือเชื่อ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถูกเรียกว่า “ทายาท” ของสเปน แม้จะมีความไม่ลงรอยกัน แต่ทั้งสองกลุ่มก็ต้องร่วมมือกันเพื่อกำจัดอันตราย เมื่อมีตัวหนึ่งลากคนของเอ็ดดี้ลงไปในหลุม ทำให้พวกเขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้
#สรุปเนื้อเรื่อง #Uncharted